วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

อิสระภาพชูจี

ชูจีอดีตหรือปัจจุบันพม่าหรือประเทศพม่าในความคิดเห็นส่วนตัวในความเกี่ยวดองเล็กๆกับเพื่อนบ้านที่ติดกันและสายสัมพันธุ์ที่ห่างหายเพราะความจำเป็นบางอย่างหรือสภาวะกราณ์ที่เป็นอยู่อย่างปัจจุบันต่างก็ทำเพื่อเอาตัวรอดในสังคมปัจจุบันเมื่อครั้งตั้งแต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเมื่อเรายังเด็ก ๆ พม่าในความหมายคือมีรัฐบาลทหารปกครอง ประเทศพม่าคือประชาธิปประไตยที่เกิดขึ้น ด้วยปัญหาการปกครองในรูปแบบทหารโดยใช้หลักความเด็ดคาดด้วยที่มีชาติพันธุ์ที่หลากหลายต่างมีผู้แสวงหาอำนาจเป็นตัวกำหนดสิทธิของประชาชนเพื่อแบ่งแยกตัวเองความสะดวกสบายก็จะมีอยู่กลุ่มหนึ่งความอยากลำบากก็จะมีอีกกลุ่มหนึ่งแต่ที่ลำบากแสนสาหัสก็เห็นจะเป็นประชาชนของประเทศด้วยที่ผู้นำชนชั้นต่างๆแสวงหาอำนาจโดยไม่คิดถึงประชาชน ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ อิสระภายที่เกิดของชูจีกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น นั้นแสดงให้เห็นว่าประเทศควรจะเป็นประเทศที่มีการพัฒนาโดยเริ่มจากการปองดองหันหน้าเข้าหากันเพื่อไปในทิศทางเดียวกันกับนานาประเทศไม่อย่างนั้นจะล้าหลังและจะสูญเสียอาณาธิปไตยโดยทางอ้อมอย่างหลีกเลียงไม่ได้ โดยทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับผู้ที่มีอำนาจอิทธพลของชนชาติพันธุ์ต่างๆภายในประเทศร่วมกันกำหนดทิศทางของคำว่าประชาธิปไตยในรูปแบบต่างๆและความเหมาะสมเพื่อการพัฒนาที่ยังยื่นเพื่อประชาชนของเขาเหล่านั้นให้ทัศเทียนนานาประเทศในรูปแบบตัวตนที่แท้จริงอิสระภาพที่แท้จริงไม่ใช่ชูจีแต่เป็นประชาชนครับประชาชนจริงๆที่เขารอคอยรุ่นแล้วรุ่นเหล่าโดยที่ไม่ละทิ่งความหวังและความพยายาม

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

listddsi: ช่องวางของอาชีพ ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่

listddsi: ช่องวางของอาชีพ ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่

ช่องวางของอาชีพ ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่

จบตรี จบโท จบเอกหรือหลายใบ จะช่วยอะไรได้เพราะในเมื่อ ณะสภาพปัจจุบันที่เป็นอยู่และกำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็วในโลกยุคปัจจุบันวิชาความรู้ที่หดหายและเสื่อมถอยไปกับโลกยุคปัจจุบันที่ไม่สามารถปฏิเสฐได้คือวิชาอาชีพที่สืบทอดกันโดยใช้ประสบการณ์ในการเรียนการสอนในการทำมาหากินคืออาชีพดั่งเดิมที่ในโลกยุคปัจจุบันเรียกเกษตรกรรมหรือเกษตรกรที่เป็นกระดูกสันหลังของชาตินั้นคือ ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ เนื่องด้วยวิวัตินาการและการส่งเสริมการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นตามหลักของสากลของโลกยุคปัจจุบันที่สอนแต่หลักวิชาการทางด้านในการทำมาหากินโดยใช้มันสมองโดยใช้เทคโนโลยีโดยลืมรากเหง้าของตัวเองเขามาเป็นตัวแปร ช่วงวางอายุในปัจจุบันที่ทำเกษตรกรรมที่มีอยู่ในขนานนี้ที่เป็นหรือทำเกษตรกรรมในส่วนของชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ ส่วนใหญ่มี่อายุระหว่าง 45 - 65 ปี หนุ่มสาวหรือวัยทำงานส่วนใหญ่นะยุคปัจจุบันที่อายุระหว่าง 20 - 44 ปีจะทำงานอยู่ในเมืองเพราะจะถูกปลูกฝังว่าการทำเกษตรหรือทำนา ทำสวน ทำไร่ เป็นอาชีพที่ลำบากมีรายได้น้อยไม่เหมือนทำงานในเมืองที่สบายและมีรายได้มากและยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐจึงเป็นเหตุให้ช่วงวางของอาชีพ ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ มีมากและนับวันก็มากขึ้นทุกที่และอีกไม่นานก็จะไม่มีคนผลิตจะมีแต่ผู้ที่ต้องการผลผลิตแต่ขาดผู้ผลิตดูได้จากภาพเหตุการณ์ในปัจจุบันที่ได้เห็นจากตัวเองและสือแต่ละช่องที่สะท้อนภาพเหตุการณ์มีแต่รุ่นพ่อรุนแม่รุ่นน้ารุ่นอาทีพร้อมที่จะผันใบแต่ขาดช่วงของการสืบทอด ภาคเกษตรเป็นภาคพื้นฐานของประเทศที่ใช้ผลิตแหล่งอาหารของคนทั้งประเทศแต่ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจังมุ่งเน้นแต่วิชาความรู้ในโลกปัจจุบันที่สอนให้เราเป็นทาสพึ่งพิงเทคโนโลยีจนลืมลำแข็งของตัวเองตรงตกเป็นทาสชาตินิยมโดยที่เขาเหล่านั้นไม่ต้องใช้กำลังเขามาบดขยี้ที่เขาเรียกว่าประเทศราชหรือประเทศเมืองขึ้น เงินเรายังต้องอิงดอร์ล่าเพราะเราซื้อแต่ของเขาไม่สามารถขายของเราตามมูลค่าของเราเองได้

วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

คำว่าศัตรูกับคำว่าปรปักษ์

ความหมายของคำว่าศัตรูกับคำว่าปรปักษ์
ศัตรูประทุกร้่ายส่วนตัว ปรปักษ์ประทุษร้ายโดยหลักการ การเจริญขึ้นด้วยคนปรปักษ์ต่อกัน แต่โลกมิได้เจริญขึ้นด้วยการที่คนเป็นศัตรูกัน ความเป็นปรปักษ์เป็นทางให้เกิดการแข่งดี ความเป็นศัตรูเป็นทางให้เกิดความแข่งร้าย วิธีของปรปักษ์ย่อมขวนขวายที่จะชนะผู้อื่นด้วยความดีของตน วิธีของศัตรูย่อมขวนขวายที่จะชนะไม่ใช่ด้วยการประกอบความดีของตนให้ยี่งขึ้น แต่ด้วยการทำลายความดีของผู้อื่นให้ลดลงมาเหลือเท่าของตนหรือตํ่ากว่าของตัว เอาความดีของผู้อื่นมาเป็นความดีของตัว ซึ่งจัดเป็นวิธีที่เลวที่สุด และโง่ที่สุดเพราะเป็นการหาภัยใส่ตัวอย่างร้ายแรง ตนได้กระทำความดีเองและพยายามให้คนรู้ว่าความดีอันนั้นเป็นของตนวิธีนี้ชอบธรรมกว่าแต่ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดเพราะเป็นการก่อศัตรูทางอ้อม คือตนเป็นผู้ทำความดีเองแต่พยายามที่จะไม่ให้ใครรู้ว่าตนเป็นผู้กระทำและสามารถจะเป็นไปได้ก็ควรพยายามให้คนเข้าใจว่าเป็นความดีของผู้อื่น วิธีปฏิบัติเช่นนี้เป็นทางที่ดีที่สุดทางหนึ่งสำหรับหลีกเลี่ยงการก่อศัตรู คนที่ไม่คิดพึ่งตนเองเลยนั้นไม่มีทางจะทำอะไรสำเร็จได้เลย คนที่พึ่งตนเองฝ่ายเดียวไม่ต้องการความช่วยเหลือร่วมมือของผู้ใดย่อมเป็นคนคับแคบทำงานสำเร็จได้เป็นส่วนน้อย คนที่พึ่งตนเองด้วยมีโอกาสได้รับความช่วยเหลือร่วมมือจากผู้อื่นด้วยอาจทำการสำเร็จใด้อย่างใหญ่หลวง

วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

listddsi: ท่วมยังไงก็ท่วมกี่ปีกี่ชาติก็ท่วม

listddsi: ท่วมยังไงก็ท่วมกี่ปีกี่ชาติก็ท่วม

listddsi: ท่วมยังไงก็ท่วมกี่ปีกี่ชาติก็ท่วม

listddsi: ท่วมยังไงก็ท่วมกี่ปีกี่ชาติก็ท่วม

ท่วมยังไงก็ท่วมกี่ปีกี่ชาติก็ท่วม

ท่านว่าไม่ครับว่ายังไงก็ท่วมสงสัยพวกสถาบันนิกและวางผังเมืองคงอยู่แต่เมืองนอกไม่มีญาติไม่มีพี่มีน้องในเมืองไทยไม่ต้องย้อมไปจนถึงร้อยปีเอาแค่ผมจำความได้ก็ประมาณสามสิบปีที่แล้วประเทศของเราเป็นประเทศที่มีฝนมากในช่วงถึงฤดูกาลรูปทรงของบ้านเรือนก็จะมีใต้ถุน(ภาษาบ้าน)คือยกสูงหลังคาก็จะละบายนํ้าฝนได้ดีและเร็วฝนจะตกและมีนํ้ามากจากทางเหนือลงมาทางใต้ระบบชลประทานทางธรรมชาติคูคลองแม่นํ้าก็จะทำหน้าที่ที่สมบูรณ์ระบายลงสู้ทะเลมีป่าไม้ดูดซับนํ้าเพื่อชลอการไหลของนํ้า(สมัยนี้ป่าถูกทำลายคูคลองแม่นํ้าถูกถมเป็นที่อยู่อาศัย)ถ้าสถาบันนิกที่วางพังเมืองยึดภูมิประเทศเป็นหลักระบบระบายนํ้าก็จะมีอยู่สี่สิบประเซ็นของพื้นที่ที่อยู้อาศัยของรูปทรงบ้านตามอย่างของต่างประเทศที่เป็นเมืองหนาวสร้างบ้านเรือนแบบหนาแน่นทึบติดกันอากาศก็จะไม่มีหายใจ(ผมอยู่เมืองไทยนิยมไทยรักเมืองไทย)หัวนอกรอกเข้ามายังคิดว่าตัวเองถูกที่สุดไม่ใช่ไม่ดีความเจริญของต่างประเทศแต่ต้องเอามาประยุคใช้ไม่ใช่รอกเรียนแบบอย่างประเทศเข้าเพราะที่นี่ประเทศไทย

วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แตกต่างจึงแตกแยก

ประเทศไทยนับตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ประกอบไปด้วย 4 ภาค แต่ละภาคของประเทศประกอบไปด้วยประชาชนที่มาจากแหล่งต่างๆ และด้วยความสมัครใจหรือไม่สมัครใจก็แล้วแต่เพราะว่าประเทศของเราก็ต้องทำสงครามระหว่างประเทศเพื่อความเป็นเอกราชหรือเพื่อการดำรงค์เผ่าพันธุ์ เมื่อสมัยที่ทำสงครามเราก็กวาดต้อนประชาชนของประเทศนั้นๆ เพื่อเป็นตัวประกันหรือเอาไว้เป็นทาส ทุกคนก็ต้องมีความเครียดแค้นเพราะไม่ใช่ประเทศของเขาไม่ใชเผ่าพันธุ์ของเขาเมื่อมาอยู่นานวันก็ออกลูกออกหลานเกิดเป็นกลุ่มเป็นก้อนอยู่ในทุกส่วนทุกภาคของประเทศเพื่อรอคอยความเป็นเอกราชหรืออณาธิปไตย ทั้งที่ความเป็นจริงหมดยุคหมดสมัยของการทำสงครามเพื่อต้องการประเทศราชกลับกลายในยุคปัจจุบันกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่เคยเข็มงวดต่อกฎระเบียบข้อปฏิบัติในการอยู่ของคนหมู่มากและต่างเชื้อชาติในยุคปัจจุบันเราใช้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยผิดพลาดตั้งแต่ต้นระบบ สส.ที่ใช้เสียงประชาชนสนับสนุนในแต่ละจังหวัดเกิดเป็นระบบพรรกการเมื่องที่มีทุนสนันสนุนและอีกหลายอย่างที่นำมาใช้โดยหลอกเรียนแบบต่างชาติที่มีวัฒธรรมที่แต่งต่างกับเราโดยสิ้นเชิงประกอบกับผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีความรู้เข้าใจในระบอบประชาธิปไตยคงมีแต่เฉพาะผู้คนจำนวนหนึ่งจึงเป็นช่วงวางของผู้ที่ไม่หวังดีอาจจะเป็นกลุ่มเล็กๆแต่อย่าลืมว่าประเทศของเราเปลี่ยนมาเป็นแบบประชาธิปไตยคือทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียบกันไม่มีการแบ่งเจ้าขุนมูลนายแต่อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันเมื่อมีทุนนิยมทุกอย่างก็แปรเปลี่ยน คำว่านิติรัฐแทบจะไม่มีความหมาย เมื่อระบบฝ่ายนิรัฐถูกทำลายทุกฝ่ายก็เป็นหลักปักในเหลน ใครมีเงินใครมีพวกใครมีความรู้ที่เป็นทุนของสังคมก็ก๊อบโก๊ยสร้างอำนาจต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องจึงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก แต่ด้วยวิวัฒนาการณ์ ก็ยังมีความเชื่ออยู่ลึกๆว่าจะผ่านในสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ไปด้วยดีและเป็นไปในทางที่ถูกที่ควร